ไม้เกี๊ยะ (1 มัด) จุดไฟ ก่อไฟ ไม้สน แคมป์ปิ้ง
ไม้สำหรับก่อไฟ ทำให้ก่อไฟได้ง่ายขึ้น
จุดปุ๊ป ติดปั๊ป
ใช้ง่ายสะดวก
1 มัด = 170 กรัม
ใช้ง่าย ใช้สะดวก ไม่ต้องปวดหัวกับการจุดไฟอีกต่อไป
ภาคเหนือเค้าเรียกไม้เกี้ยะ เอาไว้จุดไฟ
( ข้อมูลจากเน็ต )
ชื่อพื้นเมือง เกี๊ยะเปลือกแดง (ภาคเหนือ) เกี๊ยะเปลือกบาง (เชียงใหม่) จ๋วง (ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เชียงบั้ง (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) แปก (ฉานแม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์) สนเขา (ภาคกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pinus kesiya Royle ex Gordon
ชื่อวงศ์ สนเขา PINACEAE
ชื่อสกุลไม้ สน Pinus L.
ชื่อสามัญ Kesiya pine Khasya pine
นิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์
ในประเทศไทย พบขึ้นเป็นหมู่ ๆ ตามป่าสนเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 800 - 1600 ม. ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในต่างประเทศ พบที่ พม่า อินโด-ไชน่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์
สถานภาพ ประเภท ก. ไม้หวงห้ามธรรมดา ชันสน น้ำมันยางสน เป็นของป่าหวงห้าม
ลักษณะทั่วไป
ต้นไม้ เป็นไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10 - 30 ม. ไม่ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เรือนยอด ที่สมบูรณ์ จะเป็นพุ่มกลม กิ่งที่แยกจากลำต้นมักบิดคดงอเป็นข้อศอก กิ่งอ่อนมีรอยตาใบทั่วไป เปลือกนอก สีน้ำตาลอมชมพูอ่อน ล่อนเป็นสะเก็ดรูปตาข่ายเปลือกในสีแดง มักมียางสีเหลืองอ่อนใสๆ ซึมออกมาตามรอยแตก กระพี้สีขาวถึงขาวแกมเหลืองหรือเหลืองอ่อน มียางซึมอยู่ทั่วไป กระพี้กับแก่นแยกจากกันเห็นได้ชัด
ใบ ใบเล็กยาวเรียว เป็นรูปเข็ม ไม่แข็ง ออกเป็นกระจุกละ 3 ใบ ยาว 10 - 25 ซม. หลังใบเป็นร่องแบบรางน้ำตลอด ท้องใบโค้งเป็นรูปเกือกม้า ขอบหยักถี่ละเอียด ปลายแหลม โคนอัดแน่นอยู่ในกระเปราะ ใบมักออกตามปลายกิ่ง เป็นช่อใหญ่ ๆ
ดอก ออกเป็นช่อ แยกเพศ อยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกตัวผู้สีเหลือง แบบหางกระรอก ติดเป็นกลุ่มบริเวณใกล้ ๆ ปลายกิ่ง แต่ละช่อยาว 2 - 4 ซม. ช่อดอกตัวเมีย ออกเดี่ยว ๆ หรืออย่างมากไม่เกิน 3 ดอก ออกตามกิ่ง เมื่อผสมพันธุ์แล้ว จะกลายเป็นผล
ผล ออกอ่อนมีลักษณะกลม ออกรวมกันเป็นกลุ่ม เรียกว่า cone รูปไข่สีน้ำตาล กว้างประมาณ 5 ซม. ยาวประมาณ 8 ซม. เมล็ดเล็กมีปีก ผลแก่ เมื่อแก่จัดจะแตกแยกออกเป็นกลีบแข็ง ๆ โคนกลีบยังคงติดอยู่กับแกนกลางของผลและมีลักษณะเป็นรูปกรวยคว่ำ เมล็ดรูปรี ๆ มีครีบบาง ๆ สีขาว มีเมล็ดเป็นจำนวนมาก ขนาดเล้ก ก้านผลยาว 0.5 ซม.
ระยะเวลาในการออกดอกและเป็นผล ออกดอกระหว่างเดือน พฤศจิกายน - มกราคม และเป็นผลระหว่างเดือน ธันวาคม - มีนาคม
การขยายพันธุ์ นิยมเพาะกล้าจากเมล็ด และนิยมใช้ดินใต้ต้นสนสามใบมาผสมดินเพาะชำหรือปลูก เพราะว่ามีจุลินทรีย์ชื่อ ไมคอไรซ่า ช่วยในการหาอาหารให้กันและกัน จึงจะเจริญเติบโตได้ดี การปลูกสนสามใบต่างถิ่นกำเนิดจึงมักประสบปัญหาการเจริญเติบโตช้า และโดยธรรมชาติสืบพันธุ์ได้ดี หากไม่มีไฟป่ารุนแรงมากนัก
ลักษณะเนื้อไม้
เนื้อไม้แปรรูป เนื้อไม้สีเหลืองถึงน้ำตาลอ่อน หรือน้ำตาลแกมชมพู มักมีริ้วสีแก่กว่าสีพื้น เห็นวงปีชัดเจน เสี้ยนตรง เนื้อละเอียด ตบแต่งง่าย กลิ่น เหมือนน้ำมันสน
ความถ่วงจำเพาะ ประมาณ 0.63
สกายสมบัติ มีอัตราการยืดหดตัวทางด้านรัศมีร้อยละ 4.12 ทางด้านสัมผัสร้อยละ 6.27 ทางด้านยาวตามเสี้ยนร้อยละ 0.36
กลสมบัติไม้ เนื้อไม้มีความแข็ง 405 กก. ความแข็งแรง 1055 กก./ตร.ซม. ความดื้อ 105000 กก./ตร.ซม. ความเหนียว 2.20 กก-ม.
ส่วนประกอบทางเคมี มีปริมาณสารละลายในแอลกอฮอล์ - เบนซินร้อยละ 3.09 น้ำเย็นร้อยละ 2.43 น้ำร้อนร้อยละ 4.49 และโซเดียมไฮดร๊อกไซด์ 1 เปอร์เซ็นต์ร้อยละ 15.86 มีปริมาณขี้เถ้าร้อยละ 0.38 เพ็นโตซานร้อยละ 11.30 ลิกนินร้อยละ28.66 โฮเซลลูโลสร้อยละ 72.26 เซลลูโลส (คร็อสส์และบีแวน) ร้อยละ 55.89
ความทนทานตามธรรมชาติ ตั้งแต่ 3 - 4 ปี เฉลี่ยประมาณ 3.2 ปี ถ้าใช้ในร่มทนทานดี
การใช้ประโยชน์
ด้านเนื้อไม้แปรรูป ใช้ได้ดีในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในร่มตู้ โต๊ะ เครื่องเรือน ลังใส่ของ เครื่องดนตรี กระดานดำ พื้น ฝา รอด ตง เป็นไม้ประดับตกแต่ง เช่นไม้บุผนังที่สวยงาม เสากระโดงเรือใบ ฯลฯ
ด้านการทำเยื่อและกระดาษ มีคุณสมบัติเหมาะสมแก่การใช้ทำเยื่อกระดาศ มีเส้นใยยาวประมาณ 3.13
ด้านยาง ยางที่เจาะได้จากลำต้น นำเอาไปกลั่นเป็นน้ำมันและชันสน
ด้านน้ำมัน น้ำมันที่ได้จากการกลั่นยางสนดิบ ใช้ผสมยาทำ การะบูนเทียม ผสมสี ทำสบู่ ฯลฯ
ด้านชัน ชันที่ได้จากการกลั่นยางสนดิบ ใช้ในกิจการอุตสาหกรรมทำกระดาษ น้ำมันวานิช กาว และยางสังเคราะห์ ใช้ถูคันชักของเครื่องดนตรีบางชนิด เช่น ไวโอลิน ซออู้ ซอด้วง ทำน้ำมันชักเงา
ด้านการทำสีย้อม ชันที่กลั่นจากน้ำมันสนดิบ ใช้ย้อมสีผ้า ผ้าดอก
ด้านสมุนไพร ส่วนที่ใช้เป็นสมุนไพรและสรรพคุณคือ
กระพี้ รสขมเผ็ดมัน ต้มดื่มแก้ไข้สันนิบาต
แก่น รสขมฝาดเผ็ดมัน ต้มหรือฝนรับประทาน แก้ไข้เพื่อเสมหะ กระจายลม ระงับประสาน แก้ฟุ้งซ่าน แก้อ่อนเพลีย แก้คลื่นเหียนอาเจียน บำรุงไขกระดูก ไขข้อ แก้ท้องเดิน
น้ำมัน รสร้อน ทำแก้เคล็ดขัดยอก อักเสบบวม หยดลงในน้ำรอน ประคบท้องแก้บวม แก้ลำไส้พิการ
แก้มดลูกอักเสบ
ชัน (ยางสน) รสฝาดมันร้อน สมานแผล แก้บิด ปิดธาตุ
ด้านการเป็นไม้ประดับ ความน่าสนใจของไม้ต้นนี้ คือ รูปทรงลำต้นเปลาตรง มีพุ่มเรือนยอดสวยงาม ใบสดตลอดปี และมีลักษณะพิเศษที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไป ให้ร่มเงาได้กว้างแต่ไม่ทึบจนเกินไป ใบที่ร่วงหล่นเหมือนพรมที่ปูรองเท้าได้อย่างดี นอนก็นุ่มเนียนสบาย ๆ ประกอบกับมักขึ้นอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ เมื่อถ่ายภาพออกมาสวยงาม มีศักยภาพในการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติดีมาก